ประสบการณ์ของกองทุน Social Welfare Development Fund หรือ SWDF ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีบทเรียนรู้สำคัญ 2 ประการ
ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับบริบทของสังคมไทย ประการแรก คือ กองทุน SWDF มีเป้าหมายเพื่อให้องค์กรมีศักยภาพในการพัฒนา
ยิ่งขึ้น กองทุนนี้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรบุคลากร ระบบงาน ประการที่สอง กองทุน SWDF สังกัดหน่วยงานภาครัฐ และองค์กร
พัฒนาเอกชนที่จะมาขอรับการสนับสนุนต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบกองทุน แต่เมื่อกองทุนได้มีการศึกษาวิจัยและ
พบว่าการบริหารกองทุนที่ยึดระเบียบราชการเช่นเดียวกับการปฏิบัติงานราชการทั่วไป ทำให้การดำเนินการเพื่อการพัฒนาสังคมขาดความ
คล่องตัว และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนานวัตกรรม คณะกรรมการบริหารกองทุนจึงได้ปรับรูปแบบกองทุนเป็นแบบเหมาจ่าย โดยประเมิน
ผลการดำเนินงานจากผลผลิต และนวัตกรรมที่ได้รับจากการดำเนินงาน
Social Welfare Development Fund (SWDF)
SWDF เป็นกองทุนในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง อยู่ในการดูแลของหน่วยงานภาครัฐ และเป็นกองทุนให้การสนับสนุน
องค์กรพัฒนาเอกชนที่จดทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ Social Welfare Department Department of Health และ
Education Bureau มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
1.1) เป้าหมายเพื่อให้องค์กรมีศักยภาพในการพัฒนายิ่งขึ้น กองทุนนี้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรบุคลากร ระบบงาน
ประเด็นที่น่าสนใจของกองทุนกล่าวคือมีบริบทใกล้เคียงกับกองทุนด้านการพัฒนาสังคมของไทยที่อยู่ในสังกัดของหน่วยงานภาครัฐ
นอกจากนี้มีผลศึกษาวิจัย พบว่า
องค์กรพัฒนาเอกชนดำเนินการ และสถานการณ์ทางสังคมที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
2. การประเมินผลโครงการที่มุ่งตอบตัวชี้วัดที่งบประมาณแต่ละองค์การพัฒนาเอกชนเสนอเข้ามา คือประเมินแบบ input control
เป็นการยากที่องค์กรจะสามารถพัฒนานวัตกรรมทางสังคม และผลการดำเนินงานมีลักษณะตายตัว และเป็นการรายงานตาม
แบบแผนที่กำหนดไว้
3.มีความยืดหยุ่นน้อยในการปรับเปลี่ยนระบบงบประมาณ
จากปัญหาหรือข้อจำกัดทั้ง 3 ประการ ทำให้ SWDF เปลี่ยนรูปแบบของกองทุนเป็นแบบ เหมาจ่าย (LSG) และเป็นการประเมินที่ output
ของกิจกรรมแทน ซึ่งผลการวิจัยพบว่า การปรับเปลี่ยนกองทุนเป็นแบบเหมาจ่าย องค์การพัฒนาเอกชนมีการแข่งขันในการจัดบริการด้าน
สวัสดิการสังคม รวมทั้งมีการปรับปรุงบริการของตนเองมากขึ้น นอกจากนี้องค์กรพัฒนาเอกชนยังมีความระมัดระวังเรื่องการใช้งบประมาณ
มากยิ่งขึ้นเพราะการใช้งบประมาณแบบเหมาจ่ายหากวางแผนไม่รัดกุมจะมีผลต่อความยั่งยืนของกิจกรรมและคุณภาพของบริการ
อย่างไรก็ตาม SWDF พบข้อจำกัดที่เกิดขึ้นเมื่อค่าจ้างพนักงานในองค์กรพัฒนาเอกชนถูกคิดรวมแบบ เหมาจ่าย ทำให้มีอัตราการลาออก
ของเจ้าหน้าที่สูงขึ้น เพราะส่วนหนึ่งรู้สึกถึงความไม่มั่นคงในการทำงาน
1.3) แหล่งที่มาของงบประมาณ
กองทุนได้รับเงินสนับสนุนจากรายได้จากการจำหน่ายลอตเตอรี่ เงินจากกองทุนลอตเตอรี่ (ร้อยละ 15 ของรายได้จากการจำหน่าย
ลอตเตอรี่เข้าสู่กองทุน) โดยกำหนดช่วงเวลาการใช้งบประมาณอย่างชัดเจน คือ แบ่งระยะเวลารวม 9 ปี แต่ละระยะเวลามีการอนุมัติ
งบประมาณ 33% ของงบประมาณทั้งหมด แบ่งออกเป็นระยะเวลา ดังนี้
1.4) การให้ทุนสนับสนุน
LSG โดย SWD ให้การสนับสนุนทุนโดยตรงกับหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนให้ความสำคัญกับองค์กรที่ขอรับการสนับสนุน โดย
เป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพขององค์กร โดยกำหนดขอบเขตการให้ทุน ได้แก่ (Social Welfare Development Fund, วันที่ 10
พฤศจิกายน 2557)
1.5) ลักษณะของกิจกรรม/โครงการ
ลักษณะของกิจกรรม/โครงการที่ LSG ให้การสนับสนุน มีรายละเอียดดังนี้
การปรับเปลี่ยนรูปแบบการสนับสนุนงบประมาณเป็นแบบเหมาจ่าย และรูปแบบการประเมินผลการดำเนินงานทำให้การดำเนิน
กิจกรรมต่างๆ ก่อให้เกิดความยืดหยุ่น และส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทางสังคมมากขึ้น นอกจากนี้การที่กองทุน SWDF
กำหนดขอบเขตงานและกิจกรรม สัดส่วนของงบประมาณในการพัฒนาศักยภาพ (เช่น การกำหนดให้สัดส่วนการพัฒนาศักยภาพ
ของพนักงานระดับเจ้าหน้าที่มากกว่าผู้บริหาร) การพัฒนาระบบการบริหารจัดการ เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กร หรือ
กำหนดสัดส่วนของค่าจ้างพนักงานขององค์กร การกำหนดสัดส่วนงบประมาณทำให้องค์กรพัฒนาภาคประชาสังคมเกิดความ
คล่องตัวในการใช้งบประมาณเพื่อการดำเนินงาน อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนการบริหารกองทุนให้เกิดธรรมาภิบาล